" หากคุณรู้ว่า ตนเอง คือ ต้นตอของปัญหา
จงเปลี่ยนตัวเองด้วยการเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อความฉลาดมากขึ้น
อย่าไปโทษคนอื่นจากปัญหาของตนเอง "
....จากหนังสือ Rich Dad Poor Dad ของ Robert Kiyosaki
อยากเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับหนังสือให้ฟังครับ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะครับว่า..ผมไม่มีความรู้การใช้คอมฯ.ไม่มีความรู้เรื่องอินเตอเน็ต มาก่อนเลย ใช้เน็ตหรือเปิดเน็ตไม่เป็น
ผมซื้อโน๊คบุ๊คมาเครื่องหนึ่ง ทั้งๆที่เปิดใช้ไม่เป็น ได้แต่เอามาวางไว้บนโต๊ะแล้วนั่งดูอยู่ 2-3 วัน คิดคิดและคิด..ว่าจะทำอย่างไรจึงจะใช้เป็น
แล้วก็ตัดสินใจเดินไปร้านหนังสือ SE-ED Books ที่เดอะมอลล์ ที่โลตัส เซ็นทรัล ผมค้นหาหนังสือวิธีการใช้โน๊คบุ๊ค และวิธีการใช้อินเตอร์เน็ต ค้นหาหนังสืออยู่2วัน ได้หนังสือมา 2 เล่ม คือหนังสือการใช้อินเตอร์เน็ต และ หนังสือคู่มือการใช้โน๊คบุ๊ค
พอได้หนังสือมาแล้วก็มาอ่าน อ่านแล้วก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลยเปิดหนังสือและเปิดโน๊คบุ๊คใช้ตามที่เขียนในหนังสือ อยากรู้เรื่องไหน อยากทำเรื่องอะไรก็เปิดหนังสือทำตาม ในที่สุดก็ใช้โน๊คบุ๊คและใช้อินเตอร์เน๊ตได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
อีกเรื่องหนึ่งนะครับ เกี่ยวกับการค้าขายออนไลน์
ผมรู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่งพักตอนที่พักอยู่แมนชั่นเดียวกัน เมื่อก่อนสามีเขามีอาชีพขับรถแท็กซี่
หลายเดือนต่อมาผมเจอเขาที่ตลาด ก็เลยได้มีโอกาสคุยกัน เขาบอกว่าตอนนี้สามีเขาไม่ได้ขับแท็กซี่แล้ว เขาช่วยกันทำการค้าขายออนไลน์เกี่ยวกับเครื่องสำอางค์และเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิง
ผมได้ฟังแล้วก็อยากจะทำการค้าขายออนไลน์
จะทำไงดีในเมื่อเราไม่พร้อม ไม่มีเงินทุน ไม่มีความรู้ที่จะทำเว็บไซต์ ก็ได้แต่คิดๆๆ
อยู่มาวันหนึ่งไปโลตัสพัทยาใต้กับเพื่อน เพื่อนมีนัดกับสาวสวยครับ ผมก็เลยให้โอกาสเพื่อนได้นั่งจู๋จี๋กะสาว โดยบอกเพื่อนว่าเดี๋ยวจะไปร้านหนังสือก่อนนะ รอที่นี่แหละ
ที่ร้านหนังสือ หมวดหมู่หนังสือที่ผมจะไปดูก็คือ หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ยืนดูหนังสือ เลือกอ่านที่สนใจ เจอหนังสือเล่มหนึ่ง บอกว่า การค้าขายออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า ไม่จำเป็นต้องส่งสินค้าเอง ค้าขายได้ทั่วโลก เปิด 24 ชม. ง่ายๆแค่คลิ๊ก โอเคเอาเล่มนี้แหละ
วันนั้นกลับถึงกรุงเทพไม่ได้นอนเลยครับ นั่งเปิดหนังสือ เปิดโน๊คบุ๊ค ทำการเปิดร้านค้าออนไลน์จนสำเร็จ เกือบสว่างจึงได้นอน
เล่าให้ฟังประสบการณ์ชีวิตกว่าจะมาถึงวันนี้ครับ
มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสนจริงๆครับ
หนังสือช่วยเราได้ทุกอย่าง ช่วยให้รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ ช่วยให้เราทำได้ในสิ่งที่เราทำไม่เป็น
" ไหนๆก็ต้องคิดอยู่แล้ว คิดให้ใหญ่ๆไปเล๊ย "
" As Long as you're going to be thinking anyway,think big "
....Donald Trump
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี USA
" ความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุด คือ การไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย "
" The biggest risk is not taking any risk "
....Mark Zuckerberg
" ตอนที่คุณมีเงิน มีแต่คุณเท่านั้นที่ลืมว่าคุณคือใคร
แต่ตอนที่คุณไม่มีเงิน โลกทั้งโลกจะลืมไปเลยว่าคุณคือใคร
ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละ "
....Bill Cates
" ถ้าคุณยังไม่พบวิธีทำเงินในขณะหลับได้ คุณก็ต้องทำงานไปจนตาย "
" If you don'tfind a way to make money while you sleep, you will work until you die "
....Warren Buffett
" ชนะใจคนผู้หนึ่ง อาจใช้เวลากว่าครึ่งปี
ทำลายน้ำใจคนผู้หนึ่ง ใช้เพียง ครึ่งประโยคเท่านั้น "
....สุภาษิตจีน
" ความแข็งแกร่ง ไม่ได้มาจากความสามารถทางกายภาพ
แต่มาจาก ความตั้งใจ ที่คนอื่นไม่สามารถเอาชนะได้
....Mahatma Gandhi
Books online
ร้านหนังสือออนไลน์ มีครบทุกความต้องการ
วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560
วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560
เมล็ดลำใยดอง แก้ปวดหัวเข่า
ใครที่เคยปวดหัวเข่า ปวดขา ปวดเส้น ปวดข้อ คงจะรู้ว่ามันทรมานขนาดไหน
โดยเฉพาะปวดหัวเข่า เดินก็ไม่ได้ ยืนก็ไม่ได้ แม้กระทั้งเวลานอนก็ปวด ปวดจนนอนร้องไห้
ที่ผมรู้ก็เพราะว่า..เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวในบ้านผมเองครับ
ไปหาหมอที่ รพ.แห่งหนึ่ง
เอ๊กซเรย์ ตรวจดูและก็ให้ยามากิน ก็ไม่ดีขึ้นเลย ปวดมากจนทนไม่ไหว
หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก็เลยคิดว่าต้องไปหาหมอ แต่จะเปลี่ยน รพ.ดูเผื่อว่าจะดีขึ้น
ก็เลยพาไปหาหมอที่ รพ.อีกแห่งหนึ่ง
ได้ยามากิน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายปวดเลยสักนิดเดียว
ยิ่งปวดมากขึ้น..เดินก็ปวด นั่งก็ปวด ยืนก็ปวด แม้กระทั้งเวลานอนก็ปวด ปวดจนนอนร้องไห้
เช้าวันหนึ่ง มีสมาชิกในไลน์กลุ่มคนหนึ่ง ได้แชร์เรื่อง เม็ดลำใยดองเหล้าขาวแก้ปวดหัวเข่าได้ !!!
เพื่อความแน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมก็เลยค้นกูเกิ้ลดู เห็นมีข้อมูลลงไว้ ก็มั่นใจได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง
คิดว่าจะลองดู เพราะไหนๆก็ไม่รู้จะรักษาอย่างไรดี
ลองดูไม่เสียหายอะไร
อย่างน้อยก็ได้กินเนื้อลำใย 555
คิดแล้วก็ลงมือทำ...
ไปซื้อเหล้าขาว 40 ดีกรี 1ขวด
ซื้อลำใย 2 กิโล
ตามสูจน์ที่ได้รับมาจากไลน์กลุ่มว่าให้ดองเม็ดลำใยประมาณ 2 ขีด ต่อเหล้าขาว 1 ขวด ดองไว้ประมาณ 7-14 วัน
บางที่บอกว่าให้ดองเม็ดลำใย 20 เม็ด โดยให้ทุบเม็ดลำใยพอแตก ดองไว้ประมาณ 7-14 วัน
วิธีที่ผมทำ ทำแบบนี้ครับ...
ลำไยที่ซื้อมา 2 กิโล เอาเนื้อลำไยออกให้หมด ( กินเนื้อหมด เอาเม็ดไว้ )
เหล้าขาวก็เปลี่ยนขวดใหม่ เพราะขวดเหล้าขาวมันเล็กเกินไปไม่เหมาะที่จะใช้ดองเม็ดลำไยได้ ผมใช้ขวดหงษ์ทองครับ
การทุบเม็ดลำใยอาจจะเป็นเรื่องยากเพราะเม็ดลำไยแข็งและลื่น ผมใช้คีมหนีบให้แตก แล้วใส่ลงในขวดเหล้า
ใส่เม็ดลำใยที่ทุบแตกแล้วลงในขวดเหล้าขาว ประมาณตามรูปครับ
ไม่ใช่ 20เม็ด และไม่ใช่ 2ขีด
ดองได้ 5วัน คนที่ปวดหัวเข่าก็ทนต่อไม่ไหวแล้ว ก็เลยเอามาทารอบๆหัวเข่าตรงที่ปวด โดยใช้สำลีที่เป็นแผ่น ชุปน้ำลำใยดองแล้วเอามาทา แล้ววางไว้ที่หัวเข่า
ไม่น่าเชื่อครับ ทาวันที่สอง หายปวด เดินไปตลาดได้ นั่งงอเข่าได้
วิธีใช้...
เทน้ำลำใยดอง ( หนึ่งฝาขวด ) ลงในแก้ว หรือ ถ้วย แล้วใช้สำลีแผ่นแตะน้ำทาหัวเข่า แล้วก็วางแผ่นสำลีที่เปียกไว้ตรงบริเวณที่ปวด
ทาวันละ 2 ครั้ง
สงสัยติดต่อสอบถามผมได้ครับ ที่นี่
โดยเฉพาะปวดหัวเข่า เดินก็ไม่ได้ ยืนก็ไม่ได้ แม้กระทั้งเวลานอนก็ปวด ปวดจนนอนร้องไห้
ที่ผมรู้ก็เพราะว่า..เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวในบ้านผมเองครับ
ไปหาหมอที่ รพ.แห่งหนึ่ง
เอ๊กซเรย์ ตรวจดูและก็ให้ยามากิน ก็ไม่ดีขึ้นเลย ปวดมากจนทนไม่ไหว
หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก็เลยคิดว่าต้องไปหาหมอ แต่จะเปลี่ยน รพ.ดูเผื่อว่าจะดีขึ้น
ก็เลยพาไปหาหมอที่ รพ.อีกแห่งหนึ่ง
ได้ยามากิน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายปวดเลยสักนิดเดียว
ยิ่งปวดมากขึ้น..เดินก็ปวด นั่งก็ปวด ยืนก็ปวด แม้กระทั้งเวลานอนก็ปวด ปวดจนนอนร้องไห้
เช้าวันหนึ่ง มีสมาชิกในไลน์กลุ่มคนหนึ่ง ได้แชร์เรื่อง เม็ดลำใยดองเหล้าขาวแก้ปวดหัวเข่าได้ !!!
เพื่อความแน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมก็เลยค้นกูเกิ้ลดู เห็นมีข้อมูลลงไว้ ก็มั่นใจได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง
คิดว่าจะลองดู เพราะไหนๆก็ไม่รู้จะรักษาอย่างไรดี
ลองดูไม่เสียหายอะไร
อย่างน้อยก็ได้กินเนื้อลำใย 555
คิดแล้วก็ลงมือทำ...
ไปซื้อเหล้าขาว 40 ดีกรี 1ขวด
ซื้อลำใย 2 กิโล
ตามสูจน์ที่ได้รับมาจากไลน์กลุ่มว่าให้ดองเม็ดลำใยประมาณ 2 ขีด ต่อเหล้าขาว 1 ขวด ดองไว้ประมาณ 7-14 วัน
บางที่บอกว่าให้ดองเม็ดลำใย 20 เม็ด โดยให้ทุบเม็ดลำใยพอแตก ดองไว้ประมาณ 7-14 วัน
วิธีที่ผมทำ ทำแบบนี้ครับ...
ลำไยที่ซื้อมา 2 กิโล เอาเนื้อลำไยออกให้หมด ( กินเนื้อหมด เอาเม็ดไว้ )
เหล้าขาวก็เปลี่ยนขวดใหม่ เพราะขวดเหล้าขาวมันเล็กเกินไปไม่เหมาะที่จะใช้ดองเม็ดลำไยได้ ผมใช้ขวดหงษ์ทองครับ
การทุบเม็ดลำใยอาจจะเป็นเรื่องยากเพราะเม็ดลำไยแข็งและลื่น ผมใช้คีมหนีบให้แตก แล้วใส่ลงในขวดเหล้า
ใส่เม็ดลำใยที่ทุบแตกแล้วลงในขวดเหล้าขาว ประมาณตามรูปครับ
ไม่ใช่ 20เม็ด และไม่ใช่ 2ขีด
ดองได้ 5วัน คนที่ปวดหัวเข่าก็ทนต่อไม่ไหวแล้ว ก็เลยเอามาทารอบๆหัวเข่าตรงที่ปวด โดยใช้สำลีที่เป็นแผ่น ชุปน้ำลำใยดองแล้วเอามาทา แล้ววางไว้ที่หัวเข่า
ไม่น่าเชื่อครับ ทาวันที่สอง หายปวด เดินไปตลาดได้ นั่งงอเข่าได้
วิธีใช้...
เทน้ำลำใยดอง ( หนึ่งฝาขวด ) ลงในแก้ว หรือ ถ้วย แล้วใช้สำลีแผ่นแตะน้ำทาหัวเข่า แล้วก็วางแผ่นสำลีที่เปียกไว้ตรงบริเวณที่ปวด
ทาวันละ 2 ครั้ง
สงสัยติดต่อสอบถามผมได้ครับ ที่นี่
ป้ายกำกับ:
แก้ปวดหัวเข่า,
ปวดข้อ,
เม็ดลำใยดองเหล้าขาว,
เม็ดลำไย,
ลำไยดอง
วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ประวัติของแม่
มีคำบอกเล่ามาว่าสมัยนั้นเมื่อทางการให้มีการแจ้งเกิด และได้ลงปีเกิดให้แม่ในใบแจ้งเกิดช้าไปสามสี่ปี เป็นเกิด ปี พ.ศ 2459 ณ บ้านหนองแวง ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ แม่เป็นบุตรคนที่ 5 ของคุณยายทวดเพ็ง สาแก้ว และยายทวดน้อย สาแก้ว ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คน ดังนี้
1.คุณยายแก้ว สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
2.คุณตาโย สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
3.คุณตาอินทร์ สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
4.คุณยายกา สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
5.คุณแม่พา สาแก้ว
ด้านการศึกษาของคุณแม่ ในสมัยนั้นไม่มีโรงเรียนที่จะเรียน
ด้านครอบครัวของคุณแม่ คุณแม่ได้สมรสกับคุณพ่อสิงห์ สาแก้ว มีบุตรธิดา 8 คน ดังนี้...
1. นางบัวทอง สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
2.นายแก้ว สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
3.นางบัวพัน สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
4.นางสาวคำเพียง สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
5.นางบุญเลียง สาแก้ว ประกอบอาชีพและมีครอบครัวอยู่ที่ต่างประเทศ
6.นายป้าย สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
7.นางสาวคำฝ้าย สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
8.นายสวัสดิ์ สาแก้ว ประกอบอาชีพที่กรุงเทพมหานคร
ผมเป็นลูกคนเล็กและชอบติดคุณแม่ไปไหนมาไหนบ่อยๆ
คุณแม่จะทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่พูดคำหยาบและไม่เคยด่าใคร
คุณแม่เป้นคนมีเมตตา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือคน ผมจำได้ว่าเวลาที่มีคนมาขอข้าวสาร แม่ก็จะตักข้าวสารให้ที่ละมากๆแล้วแม่ยังถามเค้าอีกว่าแค่นี้พอไหม? เมื่อก่อน ที่หลังบ้านเรามีสวน มีต้นมะม่วง และมีพืชพักอื่นๆอีกมากมาย เมื่อมีคนมาขอซื้อผักผลไม้แม่ก็ไม่เคยขายแต่บอกให้เค้าเก็บอาเอง คือ อยากกินก็เก็บเอา
บทกวีที่ลูกหลานช่วยกันเขียน ในงานณาปนกิจแม่ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557
หลับตาเถิดคุณยายพาถึงคราพัก
ลูกหลานรักอย่าหวงหาเมืออาสัญ
สร้างความดีพลีชีพมาสาระพัน
อยู่สุขกันเพราะคุณยายมีเมตตา
จากหน้าแลงจะหน้าฝนต้นปีหน้า
คงไม่มีเงายายชะแง้มหา
คุณยายพาจากไกลไปไม่ลา
ปรารถนาให้ยายสุขทุกวีวัน
คิดถึงครั้งเยาว์วัยได้ไออุ่น
ตักละมุนหนุนนอนก่อนหลับฝัน
ยายกล่อมเห่เจรจาสารพัน
จนลูกหลานอ่อนพับแล้วหลับไป
หลานล้มกลิ้งยายรีบวิ่งเข้าไปช่วย
ปลอบหลานด้วยคำหวานเกินขานใจ
กอดลูกหลานประทับกับดวงใจ
จะมีใครรักเราเท่าคุณยาย
ยามลูกหลานหิวหาอาหารป้อน
เคี้ยวข้าวอ่อนป้อนปลาอุ่นให้คุณค่า
ทั้งน้ำนมให้ชีวิตจิตวิญญา
ยากจะหาสิ่งใดเทียบมาเปรียบปาน
จะหาใครในโลกนี้ไม่มีแล้ว
ร่มโพธิ์แก้วโค่นหักยากประสาน
คุณยายพาดับชีวินสิ้นลมปราณ
ทิ้งลูกหลานไปลับไม่กลับคืน
ฟ้าจ๋าฟ้าเจ้าหม่นหมองเหมือนร้องไห้
ยายสิ้นใจลูกระทมสุดขมขื่น
น้ำตาฟ้าไหลพร้าสุดกล้ำกลืน
เสียงสะอื่นโหยหาน้ำตานอง
ยายเหนื่อยนักสู้งานผ่านชีวิต
หลับสนิทเถิดยายจ๋าอย่าหม่นหมอง
ผลกรรมดีที่ยายทำตามครรลอง
เป็นโคมทองส่องสว่างกลางวิมาน
วิญญาณยายจงไปดีอย่ามีทุกข์
ประสบสุขสู่สวรรค์อันไพศาล
กราบวิงวินเทพไท้ในวิมาน
โปรดประทานคุ้มผองภัยให้ยายเทอญ.........
1.คุณยายแก้ว สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
2.คุณตาโย สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
3.คุณตาอินทร์ สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
4.คุณยายกา สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
5.คุณแม่พา สาแก้ว
ด้านการศึกษาของคุณแม่ ในสมัยนั้นไม่มีโรงเรียนที่จะเรียน
ด้านครอบครัวของคุณแม่ คุณแม่ได้สมรสกับคุณพ่อสิงห์ สาแก้ว มีบุตรธิดา 8 คน ดังนี้...
1. นางบัวทอง สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
2.นายแก้ว สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
3.นางบัวพัน สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
4.นางสาวคำเพียง สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
5.นางบุญเลียง สาแก้ว ประกอบอาชีพและมีครอบครัวอยู่ที่ต่างประเทศ
6.นายป้าย สาแก้ว ประกอบอาชีพที่บ้านหนองแวง
7.นางสาวคำฝ้าย สาแก้ว เสียชีวิตแล้ว
8.นายสวัสดิ์ สาแก้ว ประกอบอาชีพที่กรุงเทพมหานคร
ผมเป็นลูกคนเล็กและชอบติดคุณแม่ไปไหนมาไหนบ่อยๆ
คุณแม่จะทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่พูดคำหยาบและไม่เคยด่าใคร
คุณแม่เป้นคนมีเมตตา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือคน ผมจำได้ว่าเวลาที่มีคนมาขอข้าวสาร แม่ก็จะตักข้าวสารให้ที่ละมากๆแล้วแม่ยังถามเค้าอีกว่าแค่นี้พอไหม? เมื่อก่อน ที่หลังบ้านเรามีสวน มีต้นมะม่วง และมีพืชพักอื่นๆอีกมากมาย เมื่อมีคนมาขอซื้อผักผลไม้แม่ก็ไม่เคยขายแต่บอกให้เค้าเก็บอาเอง คือ อยากกินก็เก็บเอา
บทกวีที่ลูกหลานช่วยกันเขียน ในงานณาปนกิจแม่ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557
หลับตาเถิดคุณยายพาถึงคราพัก
ลูกหลานรักอย่าหวงหาเมืออาสัญ
สร้างความดีพลีชีพมาสาระพัน
อยู่สุขกันเพราะคุณยายมีเมตตา
จากหน้าแลงจะหน้าฝนต้นปีหน้า
คงไม่มีเงายายชะแง้มหา
คุณยายพาจากไกลไปไม่ลา
ปรารถนาให้ยายสุขทุกวีวัน
คิดถึงครั้งเยาว์วัยได้ไออุ่น
ตักละมุนหนุนนอนก่อนหลับฝัน
ยายกล่อมเห่เจรจาสารพัน
จนลูกหลานอ่อนพับแล้วหลับไป
หลานล้มกลิ้งยายรีบวิ่งเข้าไปช่วย
ปลอบหลานด้วยคำหวานเกินขานใจ
กอดลูกหลานประทับกับดวงใจ
จะมีใครรักเราเท่าคุณยาย
ยามลูกหลานหิวหาอาหารป้อน
เคี้ยวข้าวอ่อนป้อนปลาอุ่นให้คุณค่า
ทั้งน้ำนมให้ชีวิตจิตวิญญา
ยากจะหาสิ่งใดเทียบมาเปรียบปาน
จะหาใครในโลกนี้ไม่มีแล้ว
ร่มโพธิ์แก้วโค่นหักยากประสาน
คุณยายพาดับชีวินสิ้นลมปราณ
ทิ้งลูกหลานไปลับไม่กลับคืน
ฟ้าจ๋าฟ้าเจ้าหม่นหมองเหมือนร้องไห้
ยายสิ้นใจลูกระทมสุดขมขื่น
น้ำตาฟ้าไหลพร้าสุดกล้ำกลืน
เสียงสะอื่นโหยหาน้ำตานอง
ยายเหนื่อยนักสู้งานผ่านชีวิต
หลับสนิทเถิดยายจ๋าอย่าหม่นหมอง
ผลกรรมดีที่ยายทำตามครรลอง
เป็นโคมทองส่องสว่างกลางวิมาน
วิญญาณยายจงไปดีอย่ามีทุกข์
ประสบสุขสู่สวรรค์อันไพศาล
กราบวิงวินเทพไท้ในวิมาน
โปรดประทานคุ้มผองภัยให้ยายเทอญ.........
ป้ายกำกับ:
แม่,
แม่พาสาแก้ว,
สาแก้ว,
book,
bookonline,
magazines,
sakaew,
sarkaew
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)